วันพุธที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2553

งานฌาปนกิจศพ นายพิเชษฐ กลางโคกกรวด


ประวัติ นายพิเชษฐ์ กลางโคกกรวด

          นายพิเชษฐ์ กลางโคกรวด หรือชื่อที่เรียกกันโดยทั่วไป คือ ชื่น ด้วยบุคลิกเป็นคนอ้วน เตี้ย บางท่าน เรียก ตาแป๊ะ เป็นบุตรของพ่อเชี่ยน แม่สงวน(น้อย) กลางโคกกรวด เกิดเมื่อวันที่ ๑๗ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๑๑ ณ บ้านเลขที่ ๑๙ บ้านหนองหว้า หมู่ ๖ ตำบลด่านคล้า อำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา มีพี่น้องร่วมสายโลหิตเดียวกัน ๕ คน
          ๑.นายวิชัย กลางโคกกรวด
          ๒.นายพิเชษฐ์ กลางโคกกรวด ผู้วายชนม์
          ๓.นายบุญเชิด กลางโคกกรวด เสียชีวิตแล้ว
          ๔.นางนัยนา กลางโคกกรวด
          ๕.นายปรีชา กลางโคกกรวด

ชีวิตในวัยเด็ก
          นายพิเษฐ์ กลางโคกกรวด ได้ศึกษาเล่าเรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ ที่โรงเรียนบ้านหนองหว้า(ประชาสรรค์) สามารถอ่านออกเขียนได้เป็นอย่างดี เมื่อออกจากโรงเรียนก็ช่วยพ่อแม่ทำนา อยู่ที่บ้านหนองหว้า ต่อมาปี พ.ศ.๒๕๒๘ คุณพ่อแช่ม กลางโคกกรวด ก็เสียชีวิต แม่สงวน กลางโคกกรวด ต้องเลี้ยงดูลูก ๆทั้ง ๕ คนโดยมีลูกชายคนโตคอยช่วยเหลือได้บ้าง
          จนเข้าสู่วัยหนุ่ม ชีวิตของนายพิเชษฐ์ กลางโคกกรวด ยังพบแต่การสูญเสียมาโดยตลอด
          เมื่อปี พุทธศักราช………… นายบุญเชิด กลางโคกกรวด ผู้เป็นน้องชาย ก็มาเสียชีวิตอีกคนหนึ่ง ยังคงเป็นภาระของวิชัย และพิเชษฐ์ที่ต้องช่วยแม่ดูแลน้องๆ และหลานๆ จนเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวของพิเชษฐ์ ถ้าเห็นพิเชษฐ์ก็ต้องมีหลานๆติดตาม ด้วยเหตุนี้กระมังจึงทำให้พิเชษฐ์ครองความเป็นโสดมาตลอดชีวิต ขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ พิเชษฐ์ มีความขยัน ขันแข็ง หนักเอาเบาสู้ รับจ้างทำงานก่อสร้าง หรืองานอื่นๆ ทั่วไป และปฏิบัติหน้าที่ลูกผู้ชายได้อย่างสมบูรณ์แบบ ได้เข้ารับการคัดเลือกทหาร และอุปสมบททดแทนบุญคุณบิดามารดา
          ขณะที่บวชอยู่ที่วัดหนองหว้า ก็ได้ช่วยเหลืองานพระเดชพระคุณ หลวงพ่อพระครูวิสารวรกิจ เจ้าคณะอำเภอโนนสูง และช่วยเหลืองานพระครูสุนทรธรรมประสาท โดยเฉพาะงานด้านเครื่องไฟขยายเสียงในศาสนกิจต่างๆ โดยได้รับความเมตตาจากพระครูสุนทรธรรมประสาท ที่ให้คำแนะนำสอนให้ควบคุมเครื่องไฟขยายเสียงในงานเผยแผ่ธรรมของคณะสงฆ์ จนเกิดความชำนาญในการควบคุมดูแลเครื่องไฟขยายเสียง เมื่อลาสิกขาแล้วก็ยังได้รับความเมตตาจากพระคุณท่านให้เป็นผู้ควบคุมดูแลด้านเครื่องไฟขยายเสียงของวัดหนองหว้ามาจนถึงวันสุดท้ายของชีวิต สิ่งที่พิเชษฐ์ยึดมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ ที่ได้รับมอบหมาย ก็คือความซื่อสัตย์ และความรักในงานที่ตนเองกำลังทำอยู่ในขณะนั้น พิเชษฐ์ แสดงความเป็นผู้มีความซื่อสัตย์ให้เห็น เคยเก็บแหวนทองคำ มีมูลค่าเป็นหลายหมื่นบาท ของผู้มีเกียรติที่มาร่วมงานฌาปนกิจศพที่วัดหนองหว้าได้ในห้องน้ำ พิเชษฐ์รีบนำไปประกาศคืนเจ้าของ โดยไม่รับค่าตอบแทนใดๆที่ผู้เป็นเจ้าของแหวนจะมอบให้ นับว่าเป็นคนที่มีความซื่อสัตย์ที่แสดงให้คนต่างบ้านต่างเมืองได้เห็นจึงเป็นที่ชื่นชอบของคนทั่วไป และยังมีเหตุการณ์ที่พิเชษฐ์ได้แสดงความเป็นผู้น้ำใจอีกหลายเรื่องที่ไม่สามารถนำมากล่าวในระยะเวลาอันสั้นนี้ได้หมด นับว่าพิเษฐ์ได้น้อมนำหลักธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มาดำเนินชีวิตได้เป็นอย่างดี
          กอปร์กับพิเชษฐ์ได้ช่วยเหลืองานพระสงฆ์อยู่ตลอดได้รับฟังแต่สิ่งที่ดีๆ สิ่งที่ดีนั้นได้ซึมซับเข้าไปในหัวใจของพิเชษฐ์อยู่ตลอดเวลา ทำให้พิเชษฐ์ได้ทำแต่สิ่งดีๆ จนเป็นนิสัยของพิเชษฐ์ ความเป็นพิเชษฐ์อีกประการหนึ่งคือ พิเชษฐ์ไม่เคยเสียดายแรงงานของตนเอง พร้อมที่จะมอบให้กับใครก็ได้ที่ร้องขอ นับว่านี่คือความเป็นตัวตนของพิเชษฐ์อย่างแท้จริง จึงมีแต่คนรักเพราะพิเชษฐ์ไม่เคยคิดร้ายกับใคร มีแต่ให้ความช่วยเหลือทุกอย่างที่พิเชษฐ์จะสามารถทำได้
          ในช่วงก่อนเสียชีวิต นายพิเชษฐ์ กลางโคกกรวด ได้ดำเนินชีวิตมาเรื่อยๆตามอัตภาพ ได้ดูแลแม่และน้องๆตลอดจนหลานๆ มาเป็นลำดับด้วยความสุขตามอัตภาพ ถึงแม้นจะอยู่ในวัยที่กำลังทำงาน แต่ก็ประสบกับความเจ็บป่วย ได้เช่นคนทั่วไป ดังคำกล่าวของพุธทองค์ถึงวัฏของชีวิตมนุษย์ ว่า การเกิด การแก่ การเจ็บ การตาย เป็นสิ่งที่เกิดกับทุกผู้ทุกคน เช่นเดียวกับพิเชษฐ์ก็หนีไม่พ้นวัฏชีวิตข้อนี้ ปีพุทธศักราช ๒๕๕๒ พิเชษฐ์ป่วยจนต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา หลายวัน จนมีอาการดีขึ้นกลับบ้านมาประกอบภารกิจที่พระคุณเจ้าได้มอบหมาย ทั้งที่สภาพร่างกายเริ่มอ่อนล้าอย่างเห็นได้ชัด ทำให้พิเชษฐ์มีอาการเหนื่อยง่ายในการทำงานระยะหลังนี้ แต่ก็ยังคงช่วยเหลือพระคุณเจ้าด้านควบคุมดูแลเครื่องไฟขยายเสียงตลอดมาโดยเฉพาะงานฌาปนกิจศพ ซึ่งเครื่องไฟก็ตั้งตรงนี้ ภาพที่พิเชษฐ์ยืนควบคุมเครื่องไฟก็ยังปรากฏในห้วงความคิดของทุกท่าน คงยังจำได้ กระผมเคยได้ประกอบพิธีฌาปนกิจศพหลายครั้ง ณ ฌาปนสถานแห่งนี้ ทุกครั้งที่พูดที่เรียนประวัติของผู้วายชนม์คราใด เมื่อสบตากับพิเชษฐ์ครั้งใดเป็นที่รู้กันว่าต้องเปิดเพลงกัณแสงคลอตามไปด้วย
          ดังที่ผมได้กล่าวในเบื้องต้นว่าพิเชษฐ์อยู่กับการสูญเสียตลอดชีวิตของพิเชษฐ์ จนถึงวันที่ ๓๐ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ พิเชษฐ์มีอาการเหนื่อยมาก ได้เหมารถให้ไปส่งที่โรงพยาบาลโนนสูง แพทย์ได้รับตัวไว้และส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา โดยที่มีแม่ พี่ น้องๆ และเพื่อนบ้านตามไปดูอาการที่โรงพยาบาล ด้วยความห่งหาอาทร จนถึงเวลาประมาณ ๑๘:๐๐ น. ของวันที่ ๓๐ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๕๓ พิเชษฐ์ได้สิ้นลมหายใจด้วยอาการอันสงบ ด้วยอายุ ๔๒ ปี โดยแพทย์ลงความเห็นว่าไตวายฉับพลัน ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของแม่ พี่ และน้องๆ เพื่อนบ้านเป็นอย่างยิ่ง
          ทิศชื่น จากเราแล้ว ลาลับ ไปไม่กลับ หลับไม่ตื่น ฟื้นหาไม่
          เคยเปิดเพลงกัณแสง คุมเครื่องไฟ เหลือแต่รอย อาลัย ไว้ทดแทน
          หลับเถิดนะ ชื่นหลับ ให้เป็นสุข ไม่มีทุกข์ญาติพื่น้อง อุทิศให้
          ในส่วนบุญ กุศล จะส่งไป ขอวิญญาณชื่นจงได้สู่สวรรค์ วิมานเทอญ
         
          กายะกรรมมัง วจีกรรมมัง มโนกรรมมัง อโหสิกรรมมัง กรรมใดที่เราท่านได้ล่วงเกินผู้วายชนม์ จะด้วยกาย วาจา และใจ จะด้วยเจตนา หรือไม่เจตนา ขออโหสิกรรม และขอดวงวิญญาณของนายพิเชษฐ์ กลางโคกกรวด จะสถิตอยู่ ที่ใด จงรับทราบด้วยญาณวิถีเถิดว่า บัดนี้ แม่ พี่ น้อง ญาติ ๆ และบุคคลที่พิเชษฐ์เคารพนับถือ และนับถือพิเชษฐ์ ได้ร่วมกันน้อมนำบุญกุศลส่งไปให้พิเชษฐ์ หากมีทุกข์ขอให้พ้นจากทุกข์ หากมีสุขขอให้มีความสุขยิ่งๆ ขึ้นไป ในสัมปลายภพเบื้อหน้าโน้น เทอญ

อาลัย" ทิดชื่น"
            บูชาเป็นมิตรแท้.....กลางใจ
     ชื่อชื่นจะจารใน...........จิตข้า
     กรองพจนีต่างมาลัย.....แด่ชื่น
     ขอพบอีกชาติหน้า.......หากแม้น มีจริง ฯ (จากผู้ประกาศ สื่อไปยังผู้วายชนม์) 
            ขอขอบคุณทุกท่านเป็นอย่างสูงครับ  

          ขอขอบคุณ แม่สงวน กลางโคกกรวด แม่ของผู้วายชนม์ แม่จรวย บอนกลาง ป้าของผู้วายชนม์ ที่กรุณาให้รายละเอียดประวัติของนายพิเชษฐ์ กลางโคกกรวด ผู้วายชนม์


------------------
นายเดชะ  คิดก่อนทำ

เรียบเรียง/อ่านประวัติ

0 ความคิดเห็น:

  © ขอขอบคุณ Blogger template 'Ultimatum' by s-hatcore ๒๕๕๐ : s-hatcore

กลับขึ้นข้างบน : Back to TOP