วิชา องค์การและการจัดการ
๔๐๖ ๓๐๔ องค์การและการจัดการ ๓ (๓-๐-๖)Organization and Management
ศึกษาความหมาย แนวคิด และทฤษฎีเกี่ยวกับองค์การและการจัดการ การวางแผนเพื่อการจัดองค์การ การจัดโครงสร้างขององค์การ การจัดการทรัพยากรบุคคล การอำนวยการ การควบคุมงานการพัฒนาองค์การและการจัดการ การสร้างจุดเด่นขององค์การ กระบวนการขององค์การ การพัฒนาของทฤษฎีองค์การและการบริหารสมัยใหม่ การแก้ปัญหาความขัดแย้งและแนวทางแก้ไขปัญหาในองค์การ และการจัดการทรัพยากรบุคคลแนวพุทธ
*****
อาจารย์ประจำรายวิชา : อาจารย์พริมประภา มกราภิรมย์
*****
-----
บทความรายวิชา องค์การและการจัดการ
-----
-----
บันทึกประจำวัน
---------------
พฤหัสบดี
๕/มิ.ย./๒๕๕๑
---------------
---------------
พฤหัสบดี
๕/มิ.ย./๒๕๕๑
---------------
เนื้อหาโดยวิชา..
องค์การและการจัดการ คือ การรวมตัวของคนตั้งแต่ ๒ คนขึ้นไป เพื่อดำเนินกิจกรรมใดๆ ให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
๑.ยุคเหตุผลนิยม ..แบบปิด (ค.ศ.๑๙๐๐-๑๙๓๐)
-จัดการแบบวิทยาศาสตร์
-ทฤษฎีระบบราชการ
-ทฤษฎีการบริหาร
เป็นพื้นฐานขององค์กาแบเครื่องจักร เน้น : ๑.ประสิทธิภาพการทำงาน ๒.การควบคุม
๒.ยุคธรรมชาตินิยม...แบบปิด
-ให้ความสำคัญกับมนุษย์เพิ่มขึ้น : ๑.ด้านอารมณ์ ๒.ความรู้สึก ๓.ความคิดเห็น
แนวคิดนี้ คือ ๑.สำนักมนุษยสัมพันธ์ ระบบความร่วมมือ ๒.สำนักทรัพยากรมนุษย์
** เป็นแนวคิดพื้นฐาน แบบสิ่งมีชีวิต **
๓.ยุคเหตุผลนิยม ..แบบเปิด (ค.ศ.๑๙๖๐-๑๙๗๐)
-เพิ่มความสัมพันธ์ระหว่างองค์การและสิ่งแวดล้อม
ทฤษฎีที่ได้รับความนิยมช่วงนี้ คือ
-ทฤษฎีระบบเปิด
-ทฤษฎีโครงสร้างตามสถานการณ
์
๔.ยุคธรรมชาตินิยม ..แบบเปิด (ปลาย ค.ศ.๑๙๗๐ - )
-ความหมายของปัจจัยต่างๆที่เกี่ยวข้องในทฤษฎีองค์การเดิมที่กำหนดไว้ในลักษณะที่ตายตัว
-มีขอบเขตจำกัดในการประยุกต์ใช้ ไม่ว่าจะเป็น -ความหมายองค์กร -สิ่งแวดล้อมองค์กร
การเปลี่ยนแปลง ทำให้เกิดทฤษฎีองค์การมรการพัฒนา โดยได้รับอิทธิพลจากความรู้หลากหลายสาขาวิชา แบบผสมผสาน เรียกว่า “สหวิทยาการ”
ก่อให้เกิดองค์การใหม่ เช่น ๑.ทฤษฎีพึ่งพาทรัพยากร ๒.ทฤษฎีสถาบัน
การเปลี่ยนแปลงองค์การ ทำให้เกิดรูปแบบองค์การแบบใหม่ๆ เช่น
-องค์การแบบเครือข่าย : Network Organization
-องค์การเสมือนจริง : Virtual Organization
-องค์การคุณภาพ : Quality Organization
ทฤษฎีดังกล่าว จัดเป็น ทฤษฎีสมัยใหม่ : Modern Organizatoin
-----------------------------
มอร์แกน : เป็นผู้นำเอาทฤษฎี “อุปมาอุปมัย” มาใช้ในหนังสือ Image of organization เช่น “องค์การเสมือน เครื่องจักร”
----------------------------
---------------
พฤหัสบดี
๑๙/มิ.ย./๒๕๕๑
---------------
นำเสนองาน /Present โดย พระใบฎีกาภัทรชัย / พระอธิการกล่อม ..กลุ่ม ๑
---------------
สรุป
สำนักเหตุผลนิยม
สาระสำคัญของแนวคิด
๑.ความเฉพาะเจาะจงของวัตถุประสงค์ / วัตถุประสงค์ต้องชัดเจน
๒.ความเป็นทางการ / ต้องมีโครงสร้างเป็นทางการ
องค์การ คือ การรวมกลุ่มคนเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เฉพาะที่กำหนดไว้ โดยมีโครงสร้างทางสังคมมีความเป็นทางการข่อนช้างสูง (Scott)
สำนักธรรมชาตินิยม : Natural System
เน้นโครงการเชิงพฤติกรรม
สาระสำคัญ
๑.ความสลับซับซ้อนของวัตถุประสงค์
เน้นความอยู่รอดขององค์กร
๒.โครงสร้างที่ไม่เป็นองค์การ
ความหมาย
กลุ่มซึ่งมีความสนใจร่วมกันในการอยู่รอดในสังคมและมีพันธะในการทำกิจกรรมร่วมกัน
คุณสมบัติองค์การ
๑.โครงสร้างเชิงพฤติกรรม
๒.เต็มใจในการทำงาน
๓.การแสวงหาความอยู่รอด
๔.การมีส่วนร่วม
๕.การสื่อสารอย่างไม่เป็นทางการ
..../ เช่น Ngo
การประยุกต์ใช้
เหมาะกับองค์การที่ไม่เป็นทางการ : Informal
สำนักระบบเปิด
-สัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม
-เหมาะกับองค์การสมัยใหม่
ความหมาย : ระบบของกิจกรรมที่สัมพันธ์กันโดยมีสมาชิกที่มีลักษณะต่างกัน (Scott ๑๙๙๒)
องค์การและการจัดการ คือ การรวมตัวของคนตั้งแต่ ๒ คนขึ้นไป เพื่อดำเนินกิจกรรมใดๆ ให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
พัฒนาการ / ทฤษฎีองค์กร แบ่งเป็น ๔ ยุค
-จัดการแบบวิทยาศาสตร์
-ทฤษฎีระบบราชการ
-ทฤษฎีการบริหาร
เป็นพื้นฐานขององค์กาแบเครื่องจักร เน้น : ๑.ประสิทธิภาพการทำงาน ๒.การควบคุม
๒.ยุคธรรมชาตินิยม...แบบปิด
-ให้ความสำคัญกับมนุษย์เพิ่มขึ้น : ๑.ด้านอารมณ์ ๒.ความรู้สึก ๓.ความคิดเห็น
แนวคิดนี้ คือ ๑.สำนักมนุษยสัมพันธ์ ระบบความร่วมมือ ๒.สำนักทรัพยากรมนุษย์
** เป็นแนวคิดพื้นฐาน แบบสิ่งมีชีวิต **
๓.ยุคเหตุผลนิยม ..แบบเปิด (ค.ศ.๑๙๖๐-๑๙๗๐)
-เพิ่มความสัมพันธ์ระหว่างองค์การและสิ่งแวดล้อม
ทฤษฎีที่ได้รับความนิยมช่วงนี้ คือ
-ทฤษฎีระบบเปิด
-ทฤษฎีโครงสร้างตามสถานการณ
์
๔.ยุคธรรมชาตินิยม ..แบบเปิด (ปลาย ค.ศ.๑๙๗๐ - )
-ความหมายของปัจจัยต่างๆที่เกี่ยวข้องในทฤษฎีองค์การเดิมที่กำหนดไว้ในลักษณะที่ตายตัว
-มีขอบเขตจำกัดในการประยุกต์ใช้ ไม่ว่าจะเป็น -ความหมายองค์กร -สิ่งแวดล้อมองค์กร
การเปลี่ยนแปลง ทำให้เกิดทฤษฎีองค์การมรการพัฒนา โดยได้รับอิทธิพลจากความรู้หลากหลายสาขาวิชา แบบผสมผสาน เรียกว่า “สหวิทยาการ”
ก่อให้เกิดองค์การใหม่ เช่น ๑.ทฤษฎีพึ่งพาทรัพยากร ๒.ทฤษฎีสถาบัน
การเปลี่ยนแปลงองค์การ ทำให้เกิดรูปแบบองค์การแบบใหม่ๆ เช่น
-องค์การแบบเครือข่าย : Network Organization
-องค์การเสมือนจริง : Virtual Organization
-องค์การคุณภาพ : Quality Organization
ทฤษฎีดังกล่าว จัดเป็น ทฤษฎีสมัยใหม่ : Modern Organizatoin
ทฤษฎี : Theory
คือ ชุดแนวคิดที่มีความสัมพันธ์กัน เพื่อใช้ในการอธิบายปรากฏการณ์ที่ได้รับความสนใจในการศึกษา
ตัวแบบ : Model
คือ เทคนิคประเภทหนึ่งที่ใช้ในการทำความเข้าใจความสัมพันธ์ขององค์การ กับ ปัจจัยต่างๆ
คือ การนำเสนอความจริงอย่างง่ายๆ
อุปมาอุปมัย : Metaphor
วิธีการคิด : Way of thinking
วิธีการมอง : Way of seeing
เกี่ยวกับปรากฏการณ์ต่างๆ ซึ่งช่วยให้เข้าใจโดยอาศัยประสบการณ์ จากสิ่งอื่นที่มีลักษณะเหมือนกัน
คือ ชุดแนวคิดที่มีความสัมพันธ์กัน เพื่อใช้ในการอธิบายปรากฏการณ์ที่ได้รับความสนใจในการศึกษา
ตัวแบบ : Model
คือ เทคนิคประเภทหนึ่งที่ใช้ในการทำความเข้าใจความสัมพันธ์ขององค์การ กับ ปัจจัยต่างๆ
คือ การนำเสนอความจริงอย่างง่ายๆ
อุปมาอุปมัย : Metaphor
วิธีการคิด : Way of thinking
วิธีการมอง : Way of seeing
เกี่ยวกับปรากฏการณ์ต่างๆ ซึ่งช่วยให้เข้าใจโดยอาศัยประสบการณ์ จากสิ่งอื่นที่มีลักษณะเหมือนกัน
-----------------------------
มอร์แกน : เป็นผู้นำเอาทฤษฎี “อุปมาอุปมัย” มาใช้ในหนังสือ Image of organization เช่น “องค์การเสมือน เครื่องจักร”
----------------------------
---------------
พฤหัสบดี
๑๙/มิ.ย./๒๕๕๑
---------------
นำเสนองาน /Present โดย พระใบฎีกาภัทรชัย / พระอธิการกล่อม ..กลุ่ม ๑
---------------
สรุป
สำนักเหตุผลนิยม
สาระสำคัญของแนวคิด
๑.ความเฉพาะเจาะจงของวัตถุประสงค์ / วัตถุประสงค์ต้องชัดเจน
๒.ความเป็นทางการ / ต้องมีโครงสร้างเป็นทางการ
องค์การ คือ การรวมกลุ่มคนเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เฉพาะที่กำหนดไว้ โดยมีโครงสร้างทางสังคมมีความเป็นทางการข่อนช้างสูง (Scott)
คุณสมบัติขององค์การ
๑.กลุ่มสังคม ประกอบด้วย
-คน (ปัจเจกบุคคล)
-กลุ่ม (คน ๒ คนมารวมกัน)
-องค์การ (กลุ่มหลายๆ กลุ่มมารวมกัน)
๒.ขอบเขตชัดเจน
๓.วัตถุประสงค์เฉพาะเจาะจง
๔.การจัดแบ่งอำนาจหน้าที่
๕.กฎระเบียบ การดำเนินงาน การควบคุมและเทคนิค
๖.การสื่อสารอย่างเป็นทางการ
๗.ความชำนาญเฉพาะด้านและการจัดแบ่งงาน
๘.การว่าจ้างผู้มีทักษะ
๑.กลุ่มสังคม ประกอบด้วย
-คน (ปัจเจกบุคคล)
-กลุ่ม (คน ๒ คนมารวมกัน)
-องค์การ (กลุ่มหลายๆ กลุ่มมารวมกัน)
๒.ขอบเขตชัดเจน
๓.วัตถุประสงค์เฉพาะเจาะจง
๔.การจัดแบ่งอำนาจหน้าที่
๕.กฎระเบียบ การดำเนินงาน การควบคุมและเทคนิค
๖.การสื่อสารอย่างเป็นทางการ
๗.ความชำนาญเฉพาะด้านและการจัดแบ่งงาน
๘.การว่าจ้างผู้มีทักษะ
สำนักธรรมชาตินิยม : Natural System
เน้นโครงการเชิงพฤติกรรม
สาระสำคัญ
๑.ความสลับซับซ้อนของวัตถุประสงค์
เน้นความอยู่รอดขององค์กร
๒.โครงสร้างที่ไม่เป็นองค์การ
ความหมาย
กลุ่มซึ่งมีความสนใจร่วมกันในการอยู่รอดในสังคมและมีพันธะในการทำกิจกรรมร่วมกัน
คุณสมบัติองค์การ
๑.โครงสร้างเชิงพฤติกรรม
๒.เต็มใจในการทำงาน
๓.การแสวงหาความอยู่รอด
๔.การมีส่วนร่วม
๕.การสื่อสารอย่างไม่เป็นทางการ
..../ เช่น Ngo
การประยุกต์ใช้
เหมาะกับองค์การที่ไม่เป็นทางการ : Informal
สำนักระบบเปิด
-สัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม
-เหมาะกับองค์การสมัยใหม่
ความหมาย : ระบบของกิจกรรมที่สัมพันธ์กันโดยมีสมาชิกที่มีลักษณะต่างกัน (Scott ๑๙๙๒)
**********
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น